คัมภีร์สำคัญในพระพุทธศาสนาเรียกว่า พระไตรปิฎก มีอยู่ ๓ ปิฎก คือ พระวินัยปิฎก, พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก พระอภิธรรมเป็นคัมภีร์สำคัญที่สุด ลึกซึ้งที่สุด เข้าใจยากที่สุด และมีเนื้อหามากที่สุด โดยนับเป็นหัวข้อได้ถึง ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ในขณะที่พระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก มีปิฎกละ ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์เท่านั้น
ประเพณีการสวดพระอภิธรรม
เนื่องด้วยในสมัยโบราณไม่นิยมใช้หนังสือบันทึกคำสอนหรือพระพุทธวจนะ แต่ใช้วิธีท่องจำต่อ ๆกันมา และพระพุทธวจนะหรือคำสอนนั้นก็เป็นสาระสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือจะเรียกว่าเป็นตัวพระพุทธศาสนาก็ว่าได้ จึงเกิดความจำเป็นขึ้นว่า เมื่อจะรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่ นอกจากจะท่องจำคำสอนเป็นกิจวัตร และทำความเข้าใจในเนื้อหานั้น ๆแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องมีการสวดสาธยายธรรมกันเป็นประเพณีด้วย และการสาธยายธรรมนั้น ก็มีข้อน่าสังเกตดัวนี้
คัมภีร์อภิธัมมัตถสังคหะมี ๙ ปริเฉทคือ
ปริเฉทที่ ๑ ชื่อว่า จิตตสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่องของจิต
ปริเฉทที่ ๒ ชื่อว่า เจตสิกสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่องของเจตสิก
ปริเฉทที่ ๓ ชื่อว่า ปกิณณกสัวคหวิภาคแจกแจงแสดงเรื่อง ธรรมะ
คือเวทนา เหตุ กิจ ทวาร อารมณ์ และวัตถุ
ปริเฉทที่ ๔ ชื่อว่า วิถีสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่อง วิถีจิต
ปริเฉทที่ ๕. ชื่อว่าวิถีมุตตสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่อง จิตที่ พ้น
วิถีและธรรมะที่เกี่ยวเนื่องกับจิตเหล่านั้น
ปริเฉทที่ ๖. ชื่อว่ารูปสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่อง รูปและนิพพาน
ปริเฉทที่ ๗. ชื่อว่าสมุจจยสังคหวิภาค แจกแจงเรื่อง ธรรมะที่
สงเคราะห์เข้าเป็นหมวดเดียวกัน
ปริเฉทที่ ๘. ชื่อว่า ปัจจยสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่องธรรมที่อุป
การะซึ่งกันและกัน และแสดงบัญญัติธรรมด้วย
ปริเฉทที่ ๙. ชื่อว่า กัมมัฏฐานสังคหวิภาค แจกแจงแสดงเรื่อง กัมมัฏ
ฐาน ทั้ง สมถะ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน
คำแปลพระอภิธรรม ธมฺมสงฺ คณี
กุสลา ธฺมมา.
ธรรมทั้งหลายเป็นกุศล, คือ ไม่มีโทษ อันบัณฑิตติเตียน, มีสุขเป็นวิบากต่อไป
อกุสลา ธฺมา.
ธรรมทั้งหลายเป็นอกุศล, คือ มีโทษอันบัณฑิตติเตียน, มีทุกข์เป็นวิบากต่อไป
อพฺยากตา ธมฺมา
ธรรมทั้งหลายเป็นอัพยากฤต, คือท่านไม่พยากรณ์ว่าเป็นกุศลหรือ อกุศล คือเป็นธรรมกลาง ๆ
กตเม ธมฺมา กุสลา.
ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศลเป็นไฉน?
ยสฺมึ สมเย.
ในสมัยใด?
กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ.
จิตเป็นกุศลอันหยั่งลงสู่กามย่อมเกิดขึ้น.
โสมนสฺสสหคตํ ญาณสมฺปยุตฺตํ.
เป็นไปกับโสมนัส ประกอบพร้อมด้วยญาณ.
รูปารมฺมณํ วา.
ปรารภอารมณ์ คือรูป, หรือมีรูปเป็นอารมณ์บ้าง.
สทฺทารมฺมณํ วา.
ปรารภอารมณ์ คือเสียง,หรือมีเสียงเป็นอารมณ์บ้าง.
คนฺธารมฺมณํ วา
ปรารภอารมณ์ คือกลิ่น, หรือมีกลิ่นเป็นอารมณ์บ้าง.
รสารมฺมณํ วา
ปรารภอารมณ์ คือรส, หรือมีรสเป็นอารมณ์บ้าง.
โผฏฐพฺพารมฺมณํ วา.
ปรารภอารมณ์ คือ โผฏฐัพพะ สิ่งที่กายถูกต้อง,หรือมีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์บ้าง
ธมฺมารมฺมณํ วา
ปรารภอารมณ์ คือ ธรรม, เรื่องที่เกิดแก่ใจ,หรือมีธรรมเป็นอารมณ์บ้าง
ยํ ยํ วา ปนารพฺภ.
ปรารภอารมณ์ใด ๆบ้างก็ดี.
ตสฺมึ สมเย.
ในสมัยนั้น
ผสฺโส โหติ.
ความประจวบต้องกันแห่งอายตนะภายนอก,และวิญญาณ ยอมมี ฯลฯ
อวิกฺเขโป โหติ.
ความไม่ฟุ้งซ่านย่อมมี.
เย วา ปน ตสฺมึ สมเย อญฺปิ อตฺถิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา อรูปิโน ธมฺมา.
ก็หรือว่า ธรรมทั้งหลายอันไม่มีรูป, ที่อาศัยกันเกิดขึ้นแม้เหล่าอื่นใดมีอยู่ในสมัยนั้น
อิเม ธมฺมา กุสลา.
ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล